สืบเนื่องจากประวัติความเป็นมาของมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกที่ได้อธิบายให้ฟังแล้ว ตอนนี้ก็จะขอถามเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ว่ามีอะไรบ้าง
ตอบ: วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ มีทั้งหมด 7 ประการ ดังนี้
- ให้การสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกด้านสวัสดิการ อาชีพ การศึกษา
- ดำเนินงานสถาบันการศึกษา และฝึกอาชีพครอบครัวทหารผ่านศึก
- เป็นศูนย์กลางส่งเสริมผู้ศรัทธาสมัครช่วยงานสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก
- ให้ความร่วมมือกับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ หน่วยราชการและหน่วยงานอื่น ๆ ในการสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก
- ส่งเสริมสิทธิอันพึงมีพึงได้ของครอบครัวทหารผ่านศึก
- ร่วมการกุศลสาธารณประโยชน์ชุมชน ในกรณีที่จำเป็นหรือเกิดสาธารณภัย
- มูลนิธิฯ นี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
อยากให้ช่วยอธิบายขยายความเพิ่มเติมหรือยกตัวอย่างในแต่ละเรื่องด้วย เริ่มจากข้อแรกเลย
ตอบ: วัตถุประสงค์ข้อแรกน่าจะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดพอสมควร ก็จะขอแยกอธิบายทีละด้าน
เรื่องแรกคือด้านสวัสดิการ ในแต่ละปีมูลนิธิฯ ให้การสงเคราะห์ค่าใช้จ่ายแก่ครอบครัวทหารผ่านศึกทั้งที่เป็นเรื่องเฉพาะหน้า และให้เป็นเงินยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เช่น สงเคราะห์ค่าใช้จ่ายและเบี้ยเลี้ยงครอบครัวทหารที่เดินทางมาเยี่ยมทหารที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพักรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ สงเคราะห์ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ช่วยทหารที่พิการทางร่างกาย เช่นขาเทียม แขนเทียม รถเข็น และไม้พยุง สงเคราะห์ค่าคลอดบุตรครอบครัวทหารผ่านศึกและทหารพราน สงเคราะห์ค่าฌาปนกิจศพทหาร ตำรวจ และทหารพรานที่เสียชีวิตในหน้าที่ สงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกที่ประสบอุทกภัย สงเคราะห์เงินค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เพื่อการศึกษาบุตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และค่ารักษาพยาบาลด้วย
การสงเคราะห์ด้านอาชีพ มูลนิธิฯ ให้การสงเคราะห์เกี่ยวกับการส่งเสริมอาชีพแก่ครอบครัวทหารผ่านศึกในหลายด้าน เช่น จัดหางานให้ตามความรู้ความสามารถ สงเคราะห์เป็นค่าใช้จ่ายให้ครอบครัวเข้าฝึกอาชีพ และเป็นเงินลงทุนประกอบอาชีพ เป็นต้น
ด้านการศึกษานั้น มูลนิธิฯ ให้การสงเคราะห์ประเภทการศึกษาในด้านวิชาสามัญ วิสามัญ และวิชาชีพ จนถึงระดับอุดมศึกษาแก่ครอบครัวทหารผ่านศึกผู้ไม่มีสิทธิ์ได้รับการสงเคราะห์จากหน่วยงานอื่น หรือมีสิทธิ์ได้รับการสงเคราะห์แต่ไม่เพียงพอกับความเดือดร้อน การสงเคราะห์การศึกษาแก่บุตรทหารผ่านศึกมีทั้งที่เป็นรายปีและเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น เช่น มอบทุนการศึกษาแก่บุตรทหารผ่านศึกที่เรียนดีแต่ขาดแคลน มอบทุนอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนขาดแคลน มอบเงินทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนโดยให้ตั้งเป็นกองทุนการศึกษานำเอาดอกผลไปใช้จ่าย สงเคราะห์เงินเดือนครูโรงเรียนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 84 พรรษาในนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกนครพนม จ.มุกดาหาร
ในด้านการดำเนินงานสถาบันการศึกษาและฝึกอาชีพครอบครัวทหารผ่านศึก มูลนิธิฯ ทำอะไรบ้าง
ตอบ: วัตถุประสงค์ข้อสองของมูลนิธิฯ คือการดำเนินงานสถาบันการศึกษา และฝึกอาชีพครอบครัวทหารผ่านศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นการมอบเงินสนับสนุนเพื่อจัดหาอุปกรณ์การศึกษา เพื่อจัดหาอาหารเสริมให้นักเรียนในโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่อยู่ในค่ายทหารจังหวัดต่าง ๆ เช่น สนับสนุนอุปกรณ์การเรียนการสอนแก่โรงเรียนเตรียมอนุบาลทหารผ่านศึก จัดหาอุปกรณ์ภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนได้ มอบเงินให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในค่ายทหารจังหวัดพิษณุโลก และยังมีการจัดสร้างอาคารเรียนโรงเรียนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 84 พรรษาในนิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึกนครพนม จ.มุกดาหาร สมทบทุนจัดสร้างอาคารเรียนโรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์จักรพงษ์พิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในค่ายจักรพงษ์ นอกจากนั้นยังได้จัดสรรเงินสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พัฒนาอาชีพให้แก่ครอบครัวทหารชั้นผู้น้อย เช่นที่ค่ายรัตนรังสรรค์ จังหวัดระยอง
การที่มูลนิธิฯ ดำเนินงานมานานกว่าสี่ทศวรรษแล้ว นอกจากเจ้าหน้าที่ประจำแล้ว มูลนิธิฯ ได้คนมาช่วยทำงานอย่างไร
ตอบ: อาจกล่าวได้ว่ามูลนิธิฯเป็นศูนย์กลางส่งเสริมผู้ศรัทธาสมัครช่วยงานสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกโดยมิได้หวังผลตอบแทนแต่อย่างใดซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ข้อ 3 ของมูลนิธิฯ คนที่เข้ามาช่วยงานของมูลนิธิฯตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันที่เป็นหลักอยู่ก็คือแม่บ้านของทหารในกองทัพเหล่าต่าง ๆ ต่อมาก็มีอาสาสมัครที่เป็นคนในวงการบันเทิงและพลเรือนที่ยินดีมาช่วยงานเป็นประจำ ส่วนในช่วงของการหาทุนในวันทหารผ่านศึก หรือที่เรียกกันว่า “สัปดาห์ดอกป๊อปปี้บาน” ก็มีทั้งนักเรียน นักศึกษา ดารา นักแสดง และอาสาสมัคร หน่วยงานราชการหลายแห่ง โรงเรียนต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดรับดอกป๊อปปี้ไปช่วยจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทราบว่ามูลนิธิฯ มีการร่วมมือกับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์และหน่วยงานราชการอื่นๆ รวมทั้งความร่วมมือกับองค์กรการกุศลสาธารณประโยชน์อื่น ๆ อยากให้ช่วยยกตัวอย่างให้ฟังด้วย
ตอบ: ตามปกติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ มีหน้าที่โดยตรงในการให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก แต่ก็มีการสงเคราะห์บางอย่างนอกเหนือไปจากระเบียบที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจะครอบคลุมไปถึง ในกรณีดังกล่าว ครอบครัวทหารผ่านศึกไม่สามารถจะขอได้จากองค์การทหารผ่านศึก เพราะอาจขัดต่อระเบียบที่องค์การวางไว้ มูลนิธิฯ ก็จะเข้าไปเสริมในส่วนที่ยังขาดอยู่ นอกจากการสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกฯ โดยตรงแล้ว มูลนิธิฯ ได้ให้การสงเคราะห์แก่หน่วยราชการและหน่วยงานอื่น ๆ ในขอบเขตที่มูลนิธิฯ สามารถทำได้และไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ เช่น ให้ความช่วยเหลือด้านสิ่งอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค จัดหาวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ในสนามให้แก่หน่วยปฏิบัติการป้องกันรักษาความมั่นคงทางชายแดน และยังช่วยสงเคราะห์ด้านการกุศล สาธารณประโยชน์ของชุมชนที่จำเป็นหรือที่เกิดสาธารณภัยอีกด้วย เช่น มอบเงินเพื่อสร้างอาคารผู้พิการของกรมประชาสงเคราะห์ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่กรมประชาสงเคราะห์เพื่อนำไปแจกแก่ราษฎรที่ประสบอากาศหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มอบถุงยังชีพแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยเป็นต้น
มูลนิธิฯ มีหลักเกณฑ์ในการให้การสงเคราะห์อย่างไรบ้าง
ตอบ: วัตถุประสงค์อีกข้อหนึ่งของมูลนิธิฯ ก็คือส่งเสริมสิทธิอันพึงมีพึงได้ของครอบครัวทหารผ่านศึกซึ่งได้แก่บิดา มารดา บุตร ภริยา สามี ผู้อุปการะ หรือผู้อยู่ในความอุปการะของทหารผ่านศึกที่ประจำการ ครอบครัวทหารผ่านศึกทั้งในและนอกประจำการที่พิการ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต ครอบครัวทหารผ่านศึกนอกประจำการบุคคลเหล่านี้ต้องเป็นผู้ไม่สามารถช่วยตนเองได้ และทางราชการ หรือหน่วยงานอื่นไม่มีระเบียบช่วยเหลือไว้ ปกติมูลนิธิฯ มีหลักเกณฑ์และระเบียบการสงเคราะห์ในแต่ละด้าน
มาถึงวันนี้ คิดว่าวัตถุประสงค์ที่มูลนิธิฯ ตั้งไว้บรรลุผลมากน้อยเพียงไร
ตอบ: อยากจะบอกว่าแม้เราจะเป็นเพียงองค์กรเล็ก ๆ แต่งานของมูลนิธิฯ ที่ทำมามากกว่า 4 ทศวรรษก็บรรลุผลสำเร็จในระดับหนึ่ง การช่วยเหลือของมูลนิธิฯ มีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ เป็นกำลังเสริมแก่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ เท่าที่มูลนิธิฯ จะมีกำลังทรัพย์พอจะสงเคราะห์ได้ ในภาพรวมก็ขอสรุปว่านอกจากมูลนิธิฯ จะสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกอยู่เป็นประจำแล้ว ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานราชการและองค์กรการกุศลอื่น ๆ และได้สร้างถาวรวัตถุเพื่อประโยชน์ใช้สอยในระยะยาวอีกด้วย ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ก็ด้วย “จิตอาสา” ของทุกคนที่เข้ามาช่วยงาน และศรัทธาของท่านผู้มีใจบุญทั้งหลายที่เล็งเห็นถึงความตั้งใจจริงของมูลนิธิฯ ได้สนับสนุนซื้อดอกป๊อปปี้เป็นประจำทุกปี มูลนิธิฯ ก็จะยังคงดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งไว้ต่อไป
