
ท่านผู้หญิจงกล กิตติขจร ให้หาตัวอย่างดอกไม้เพื่อจะทำจำหน่ายหาทุนช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว จึงได้ทำดอกป๊อปปี้สีแดง ซึ่งมีประวัติเกี่ยวโยงถึงสมรภูมิฟลานเดอร์ส สมรภูมิเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ ระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและเยอรมันเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารพันธมิตรได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากสมรภูมิมากที่สุด
จอมพลเอิร์ล ออฟ เฮก ผู้บัญชาการรบที่นั่นได้เห็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าพิศวงและน่าพิศมัยเกิดขึ้น ณ สมรภูมิแห่งนั้น คือ ในบริเวณหลุมฝังศพทหาร มีดอกป๊อปปี้ป่าขึ้นอยู่เดียรดาษทั่วไป ทำให้เกิดเป็นลานสีแดงฉานขึ้นอย่างสวยสดงดงาม ดอกป๊อปปี้จึงเป็นดอกไม้อนุสรณ์แห่งวีรกรรมของทหารผ่านศึก เตือนใจให้ระลึกถึงเลือดสีแดงของทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ
ประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามมาแล้วมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติให้ปรากฎอยู่ วีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่วปรากฎต่อสายตาชาวโลก ฉะนั้นเพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกและมีการจำหน่ายเผยแพร่ในวันที่ระลึกทหารผ่านศึกเป็นต้นมา
ดอกป๊อปปี้ที่ทำครั้งแรก ก็ได้ทำตามแบบดอกจริงๆ ใช้กระดาษย่นสีแดง กลีบบางไม่คงทน ทำไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อเตรียมไว้จำหน่ายเพียงวันเดียว ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันทหารผ่านศึก ทำให้ลำบากต่อการเก็บรักษา ขึ้นปีใหม่ก็ต้องหาวิธีจะทำให้เก็บรักษาได้สะดวกและไม่เสียรูปทรง พอดีกับโรงงานทอผ้าของทหารบกได้มอบผ้าสีเขียว และสีแดงมาให้ จึงได้คิดดัดแปลงใช้ผ้าทำเป็นดอกป๊อปปี้และก็ได้ใช้ตลอดมาจนทุกวันนี้
